การใช้บริการจัดการงานขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สามารถจับคู่งานกับผู้ให้บริการขนส่งได้อย่างแม่นยำ และมีระบบติดตามสถานะการขนส่งแบบเรียลไทม์ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้การทำธุรกิจขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัว และเติบโตเร็วมากยิ่งขึ้น
สำหรับนักธุรกิจใดที่กำลังมองหาพาร์ทเนอร์บริษัทขนส่งสินค้ามาช่วยจัดการงานขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจแบบ B2B, ธุรกิจแบบ B2C หรือธุรกิจแบบ C2C เรามีคำแนะนำในการเลือกใช้บริษัทขนส่งสินค้าที่น่าเชื่อถือมาฝาก
ธุรกิจแบบ B2B (Business-to-Business) คือ การทำธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการด้วยกันเอง เพื่อนำไปผลิตสินค้า หรือต่อยอดบริการ เช่น บริษัทน้ำตาลที่จะต้องสั่งซื้ออ้อยจำนวนมากเพื่อนำไปผลิตน้ำตาล หรือบริษัทเฟอร์นิเจอร์ที่จะสั่งซื้อไม้จำนวนมากไปผลิตเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เป็นต้น
การทำธุรกิจแบบ B2B นั้น จะต้องใช้รถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่อย่างรถบรรทุก รถเทรลเลอร์ หรือรถพ่วงเป็นประจำ และจะต้องส่งสินค้าให้ถึงภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อที่ลูกค้าจะได้นำสินค้าไปผลิต หรือขับเคลื่อนธุรกิจอื่น ๆ ต่อได้ หากการขนส่งมีปัญหา หรือเกิดความเสียหายระหว่างขนส่งก็อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อธุรกิจได้ ด้วยเหตุนี้ การทำธุรกิจแบบ B2B จึงควรเลือกใช้บริษัทขนส่งสินค้าที่น่าเชื่อถือ มีระบบ API (Application Program Interface) ที่สามารถติดต่อเชื่อมข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการขนส่ง กับ ผู้ที่ต้องการใช้บริการขนส่ง ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการขนส่งได้มาก และทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจแบบ B2C (Business to Consumer) คือ การทำธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้าโดยตรง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นธุรกิจ SME (Small and Medium Enterprise) ที่จะต้องจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค เช่น หนังสือ เสื้อผ้า อาหาร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
การทำธุรกิจแบบ B2C ก็จำเป็นต้องใช้บริการบริษัทขนส่งสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำให้ได้มากที่สุด โดยควรมองหาบริษัทขนส่งสินค้าที่มีบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ มีรถขนส่งหลายขนาด สามารถเลือกได้ทั้งแบบเหมาคันและฝากส่ง เพื่อให้การจัดส่งสินค้าคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ธุรกิจแบบ C2C (Consumer to Consume) คือ การทำธุรกิจแบบเล็ก ๆ ระหว่างผู้บริโภคด้วยกันเอง โดยอาจเป็นการขายของมือสอง ของทำมือ หรือสินค้าที่ผลิตเอง แต่มีจำนวนไม่มากก็ได้ การทำธุรกิจแบบ C2C นั้น อาจไม่จำเป็นต้องใช้ระบบการขนส่งขนาดใหญ่ เพราะอาจทำให้มีงบประมาณในการขนส่งที่สูงเกินไปได้ จึงควรเลือกใช้บริษัทขนส่งสินค้าแบบ Delivery หรือบริษัทขนส่งสินค้าที่มีบริการฝากส่ง ซึ่งเป็นการขนส่งโดยการจองพื้นที่รถขนส่งแค่ส่วนหนึ่ง ก็จะช่วยให้ประหยัดลดต้นทุนในการจัดส่งได้มากขึ้นด้วย
จะเห็นได้ว่า โจทย์ในการเลือกบริษัทขนส่งสินค้าจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจเป็นหลัก เช่น ธุรกิจแบบ B2B จะต้องใช้บริษัทขนส่งสินค้าที่มีรถขนส่งขนาดใหญ่ และมีระบบบริหารงานจัดการที่มีคุณภาพ ในขณะที่ธุรกิจแบบ B2C จะเน้นไปที่ความรวดเร็วในการส่งสินค้าเป็นหลัก แต่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบไหน ก็สามารถใช้บริการขนส่งสินค้ากับ WeMove Platform ได้ เพราะเรามีบริการรถขนส่งสินค้าตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ไปจนถึงใหญ่สุด รองรับการขนส่งสินค้าทุกประเภท พร้อมระบบ API ที่จะช่วยจับคู่งานอัตโนมัติกับผู้ให้บริการงานขนส่ง มีระบบติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ และประกันความเสียหายของสินค้าทุกเที่ยวขนส่ง ซึ่งเราสามารถช่วยลดต้นทุนในการบริหารงานจัดส่งของธุรกิจคุณได้อย่างน้อย 5% รับรองว่า การทำธุรกิจร่วมกับ WeMove จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน